| กลวิธีลักลอบขนยาของเหล่าบรรดานักค้ายาเสพติดต่างพัฒนาวิธีการ เพื่อหวังตบตาเจ้าหน้าที่ ทั้งยัดมากับผัก ผลไม้ ขายคู่กับก๋วยเตี๋ยว ซุกบุหรี่ ซุกลูกชิ้น ซุกยกทรง สารพัดวิธีที่จะงัดขึ้นมาใช้ แต่วิธีการข้างต้นเทียบไม่ได้กับกลวิธีของ นายพลพิพัฒน์ ประทุมแดง หรือ โก๊ะ อายุ 37 ปี ชาวอ.บางละมุง จ.ชลบุรี เนื่องจากนายพลพิพัฒน์ ใช้วิธีอ้างตัวเป็นนายตำรวจยศ "ร.ต.อ." ระดับรองสวป. สภ.บางละมุง มีครบทั้งบัตรข้าราชการ ชุดเครื่องแบบ ย่อมไม่แปลกที่จะตบตาเจ้าหน้าที่ ชั้นผู้น้อยได้เป็นเวลานาน แต่ของปลอมหรือจะสู้ของจริง เมื่อข่าวคราวของรองสวป.เก๊ แว่วไปเข้าหูเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.บางละมุง นายพลพิพัฒน์จึงถูกติดตามสืบอย่างลับๆ จนในที่สุดสามารถกระชากหน้ากาก พร้อมยึดทั้งยาบ้าและเอกสารราชการปลอมจำนวนมาก เหตุการณ์ครั้งนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา เมื่อพล.ต.ต.นิติพงศ์ เนียมน้อย ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วยนายชาคร กัญจน วัตตะ นายอำเภอบางละมุง พ.ต.อ.สุวิชาญ ญาณกิตติคุณ รอง ผบก. พ.ต.อ.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.บางละมุง พ.ต.ท. ภาคภูมิ นาคพนม สว.สส.ฯ และตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางละมุง ร่วมกันแถลงจับกุม นายพลพิพัฒน์ หรือ โก๊ะ ประทุมแดง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 5 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เอเยนต์ค้ายาบ้ารายใหญ่ในพื้นที่และแอบอ้างเป็นตำรวจ พร้อมของกลางยาบ้า 1,800 เม็ด บัตรข้าราชการปลอมระบุเป็นนายตำรวจยศ "ร.ต.อ." ตำแหน่งรองสวป. สภ.บางละมุง จำนวน 152 แผ่น เอกสารทางราชการปลอม 346 แผ่น บัตรพกพาอาวุธปืนปลอม 26 ใบ ตราสติ๊กเกอร์กรมการปกครอง 80 ดวง ตรายางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 47 อัน ภาพถ่ายข้าราชการตำรวจ 88 ภาพ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง พรินเตอร์ 1 เครื่อง อาวุธปืนเถื่อน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน และรถยนต์ 1 คัน พล.ต.ต.นิติพงศ์เล่าถึงการแกะรอยติดตามจับกุมครั้งนี้ว่า ก่อนหน้านี้ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางละมุง ได้รับข้อมูลว่ามีตำรวจลักลอบขนยาบ้าจากเอเยนต์ใหญ่ทางภาคเหนือมาจำหน่ายในพื้นที่เมืองพัทยา ที่สำคัญบางครั้งถึงขนาดแต่งเครื่องแบบตำรวจมาส่งยา เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่สงสัย เมื่อทราบข้อมูลในข้างต้นพ.ต.ท.ภาคภูมิ จึงเร่งสืบสวนจนทราบว่าแท้จริงแล้วเป็นตำรวจปลอม โดยคนร้ายคือนายพลพิพัฒน์ที่ชอบแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังมีพฤติกรรมหลอกลวงว่า สามารถวิ่งเต้นขออนุญาตต่างๆ กับหน่วยราชการ อาทิ ทำเอกสารใบ ป.4 (ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน) หรือเอกสารอื่นที่มีขั้นตอนวิธีการยุ่งยากให้ได้ โดยเหิมเกริมถึงขนาดเข้าไปหาเหยื่อถึงบนโรงพักในหลายพื้นที่ โดยแนะนำตัวและอ้างเป็นร.ต.อ.พลพิพัฒน์ ประทุมแดง รองสวป.สภ.บางละมุง ตำรวจตามสืบจนทราบว่านายพลพิพัฒน์ เพิ่งขึ้นไปรับยาบ้ามา 2 หมื่นเม็ดจากเอเยนต์ ในภาคเหนือ จึงวางแผนส่งสายไปล่อซื้อและนัดส่งมอบยาบ้ากันภายในซอยทุ่งกลม-ตาลหมัน 18 หมู่ 14 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อถึงเวลานัดพบนายพลพิพัฒน์ ขับรถยนต์นำยามาส่ง จึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที แต่ขณะถูกล็อกตัวนายพลพิพัฒน์ ยังพยายามอ้างตัวเป็นรองสวป.สภ.บางละมุง เหมือนเดิม แถมบอกอีกว่ากำลังปฏิบัติหน้าที่สืบสวนเกี่ยวกับคดียาเสพติด สุดท้ายเจ้าหน้าที่ต้องแสดงตัวและบอกความจริงไปว่า เป็นตำรวจ สภ.บางละมุง และไม่เคยมี รองสวป.ชื่อ พลพิพัฒน์ หลังได้ยินเช่นนั้นทำเอาตำรวจเก๊ ถึงกับหน้าซีดถอดสี ก่อนควบคุมตัวไปตรวจค้นที่บ้านพักแล้วพบของกลาง เป็นยาบ้า บัตรข้าราชการตำรวจและเอกสารทางราชการที่ปลอมแปลงขึ้นมาจำนวนมาก จากนั้นคุมตัวนายพลพิพัฒน์ มาเค้นสอบเพิ่มเติมและให้การรับสารภาพว่า เป็นหลานชายของกำนันคนหนึ่งในอ.บางละมุง โดยลักลอบขนยาบ้ามาจากจ.เชียงราย ก่อนขายให้วัยรุ่นในเมืองพัทยา มานานกว่า 8 เดือนแล้ว โดยแต่ละครั้งจะลอบขนยาบ้ามา 1-2 มัด เพราะต้องการหาเงิน 1.7 ล้านบาทไปไถ่ที่ดินคืน ส่วนที่อ้างตัวเป็นตำรวจนั้น เพิ่งทำได้แค่ 3 เดือน ตำรวจเก๊ยังอ้างด้วยว่า ค้นหาวิธีการทำบัตรตำรวจตรายางและเอกสารทางราชการปลอมจากในอินเตอร์เน็ต ก่อนที่จะปลอมบัตรขึ้นมาหลายใบและซื้อเครื่องแบบมาใส่ ตอนขนยาบ้ามาขายก็จะแต่งเครื่องแบบทุกครั้ง เพื่อตบตาตำรวจ ซึ่งทุกครั้งเวลาที่ขับรถผ่านด่านตรวจก็มักจะได้รับการอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี เพราะคิดว่าเป็นตำรวจด้วยกัน จนกระทั่งมาถูกตำรวจบางละมุงจับกุมตัวได้ ทั้งความผิดจากลอบขนยาบ้า และความผิดจากอ้างเป็นตำรวจ งานนี้คงอีกนานกว่าหนุ่มแสบจะได้ออกจากคุก |
