1.เยื่อเมือกในท่อปัสสาวะ ช่องคลอด ปากมดลูก และเยื่อบุมดลูก
2.ท่อรังไข่
3.คอ
4.ทวารหนัก
5.เยื่อบุตา
การติดต่อของโรค
โรคนี้ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะทางปาก
ช่องคลอดหรือทางทวาร
α การร่วมเพศทางปากจะทำให้เชื้อสามารถติดต่อจากปากไปอวัยวะเพศ หรือจากอวัยวะเพศไปยังปาก
α หากช่องคลอดหรืออวัยวะดังกล่าวปนเปื้อนหนองที่มีเชื้อก็สามารถติดเชื้อนี้ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีการร่วมเพศ
α หากคุณมีคู่ขามากเท่าใดคุณก็จะมีโอกาสติดเชื้อนี้เพิ่มขึ้น
α การจับมือหรือการนั่งฝาโถส้วมไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อ
α ผู้ที่เคยเป็นและได้รับการรักษาหายแล้ว สามารถกลับมาเป็นอีกได้ ถ้ามีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เชื้อ
α การร่วมเพศทางปากจะทำให้เชื้อสามารถติดต่อจากปากไปอวัยวะเพศ หรือจากอวัยวะเพศไปยังปาก
α หากช่องคลอดหรืออวัยวะดังกล่าวปนเปื้อนหนองที่มีเชื้อก็สามารถติดเชื้อนี้ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีการร่วมเพศ
α หากคุณมีคู่ขามากเท่าใดคุณก็จะมีโอกาสติดเชื้อนี้เพิ่มขึ้น
α การจับมือหรือการนั่งฝาโถส้วมไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อ
α ผู้ที่เคยเป็นและได้รับการรักษาหายแล้ว สามารถกลับมาเป็นอีกได้ ถ้ามีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เชื้อ
อาการของโรค
Ω ผู้ชายบางคนที่ได้รับเชื้อแล้วอาจไม่ปรากฏอาการเลยก็ได้ อย่างไรก็ดี อาการจะปรากฏขึ้นแน่นอนภายใน 14 วันหลังจากได้รับเชื้อ
Ω ผู้ชายบางท่านมักจะเกิดอาการหลังจากได้รับเชื้อไปแล้ว 2-5 วันอาการเริ่มจะมีอาการระคายเคืองท่อปัสสาวะ หลังจากนั้นจะมีอาการปวดแสบเวลาปัสสาวะ แล้วจึงตามด้วยอาการมีหนองสีเหลืองไหลออกจากท่อปัสสาวะ
Ω ส่วนผู้หญิงส่วนใหญ่จะไม่มีอาการ หากจะมีอาการมักจะเกิดใน 10 วัน
Ω ในผู้หญิง อาการจะเบากว่าผู้ชาย หรือไม่ปรากฏอาการเลย อาจมีอาการเจ็บแสบระหว่างปัสสาวะ หรือมีเลือดออกคล้ายประจำเดือน ผู้หญิงที่เป็นโรคนี้จะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อซ้ำซ้อน หรือนำไปสู่อาการร้ายแรงอื่นๆ ได้
Ω อาการที่เกิดขึ้นทั้งในชายและหญิง คือจะมีอาการคันที่ทวารหรัก แสบ เลือดออก การติดเชื้อที่คออาจจะไม่มีอาการ หรืออาจจะมีอาการเจ็บคอ ไข้
Ω หากติดเชื้อทีตาจะมีหนองไหลและเคืองตา
Ω ผู้ชายบางคนที่ได้รับเชื้อแล้วอาจไม่ปรากฏอาการเลยก็ได้ อย่างไรก็ดี อาการจะปรากฏขึ้นแน่นอนภายใน 14 วันหลังจากได้รับเชื้อ
Ω ผู้ชายบางท่านมักจะเกิดอาการหลังจากได้รับเชื้อไปแล้ว 2-5 วันอาการเริ่มจะมีอาการระคายเคืองท่อปัสสาวะ หลังจากนั้นจะมีอาการปวดแสบเวลาปัสสาวะ แล้วจึงตามด้วยอาการมีหนองสีเหลืองไหลออกจากท่อปัสสาวะ
Ω ส่วนผู้หญิงส่วนใหญ่จะไม่มีอาการ หากจะมีอาการมักจะเกิดใน 10 วัน
Ω ในผู้หญิง อาการจะเบากว่าผู้ชาย หรือไม่ปรากฏอาการเลย อาจมีอาการเจ็บแสบระหว่างปัสสาวะ หรือมีเลือดออกคล้ายประจำเดือน ผู้หญิงที่เป็นโรคนี้จะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อซ้ำซ้อน หรือนำไปสู่อาการร้ายแรงอื่นๆ ได้
Ω อาการที่เกิดขึ้นทั้งในชายและหญิง คือจะมีอาการคันที่ทวารหรัก แสบ เลือดออก การติดเชื้อที่คออาจจะไม่มีอาการ หรืออาจจะมีอาการเจ็บคอ ไข้
Ω หากติดเชื้อทีตาจะมีหนองไหลและเคืองตา
การป้องกันติดโรค
1. การป้องกันที่ดีที่สุดคือการงดมีเพศสัมพันธ์
2. มีสามีหรือภรรยาคนเดียว
3. สวมถุงยางอนามัยหากมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่แน่ใจว่าจะมีโรคติดต่อหรือไม่
การวินิจฉัยโรค
เราสามารถรู้ว่าเป็นโรคหนองในแท้หรือไม่โดยการตรวจ
1. นำหนองหรือปัสสาวะมาตรวจ PCR
2. นำหนองมาย้อมหาเชื้อ
3. นำหนองไปเพาะเชื้อ
4. ข้อสำคัญคือท่านอาจจะต้องตรวจหาโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่นร่วมด้วย
เราสามารถรู้ว่าเป็นโรคหนองในแท้หรือไม่โดยการตรวจ
1. นำหนองหรือปัสสาวะมาตรวจ PCR
2. นำหนองมาย้อมหาเชื้อ
3. นำหนองไปเพาะเชื้อ
4. ข้อสำคัญคือท่านอาจจะต้องตรวจหาโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่นร่วมด้วย
การรักษาโรค
เนื่องจากผู้ที่ป่วยเป็นโรคหนองในแท้มักจะมีหนองในเทียมร่วมด้วยเสมอดังนั้นจึงต้องรักษาพร้อมกันทั้งสองโรค
æ ยาในกลุ่ม Cephalosporin ได้แก่ Cefixime
400 มิลิกรัมรับประทานครั้งเดียว หรือ Ceftriaxone 250 มิลิกรัมฉีดครั้งเดียว
æ
ยาในกลุ่ม Quinolone ได้แก่ยา Ciprofloxacin 500
mg รับประทานครั้งเดียว หรือ Ofloxacin 400
mg รับประทานครั้งเดียว หรือ Levofloxacin รับประทานครั้งเดียวหากแพ้ยาดังกล่าวอาจจะให้
spectinomycin
æ
การรักษาหนองในแท้มักจะรักษาหนองในเทียมร่วมด้วยโดยการให้ doxycycline 1
เม็ดเช้าเย็นเป็นเวลา 7 วัน
æ
คนท้องต้องปรึกษาแพทย์
æ
เนื่องจากเชื้อมีการดื้อยามากขึ้นท่านต้องรับประทานยาให้ครบ
และตรวจซ้ำตามที่แพทย์แนะนำและต้องพาคู่ของท่านไปตรวจรักษาด้วย
กลุ่มเสี่ยงที่จะติดโรค
ทุกเพศ โดยเฉพาะผู้ที่ชอบเปลี่ยนคู่นอนบ่อยครั้ง