ส่วนใหญ่จะใช้วิธีให้เคมีบำบัดชนิดรับประทานยา ที่มีใช้กันแพร่หลาย
คือ บูซัลแฟน (Busulfan) และไฮดรอกซียูเรีย (Hydroxyurea)
ยาทั้ง 2 ตัว สามารถจะควบคุมให้จำนวนเม็ดเลือดขาวลงมาอยู่ในระดับปกติได้
ถือว่าอยู่ในระยะโรคสงบ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเม็ดเลือดขาวจะปกติโลหิตจางหายไปได้
แต่ตัวฟิลาเดลเฟียโครโมโซมก็ยังมีอยู่ ดังนั้น โรคก็ยังอยู่ไม่ได้หายขาดจากโรค
และการให้เคมีบำบัดชนิดต่าง ๆ ก็ไม่สามารถจะทำให้จำนวนฟิลาเดลเฟียโครโมโซมหายไปได้
เคมีบำบัดเหล่านี้ จึงเป็นเพียงยาที่ควบคุมให้โรคสงบลงเท่านั้น
ไม่ได้รักษาให้หายขาดได้
2. การใช้ยาฉีดอินเทอร์เฟียรอน (interferon)
เป็นยาฉีดที่ราคาค่อนข้างสูง ต้องฉีดทุกวัน
และมีผลข้างเคียงมาก เช่น เพลีย เป็นไข้สูง ปวดเมื่อยคล้าย ๆ เป็นไข้หวัดใหญ่
ส่วนใหญ่มักจะเป็น 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดยา
แก้ไขให้ผลข้างเคียงของยาน้อยลงได้ โดยการฉีดตอนเย็นหรือก่อนนอน
และรับประทานยาแก้ไข้ แก้ปวด ก่อนฉีดยาประมาณ 2 ชั่วโมง
ทำให้อาการต่าง ๆ บรรเทาลงได้บ้าง หลังจากฉีดลงไป 2 สัปดาห์แล้วอาการข้างเคียงจากยามักจะน้อยลงหรือหายไป
การฉีดยาอินเทอร์เฟียรอนสามารถ
ทำให้จำนวนฟิลาเดลเฟียโครโมโซมลดลงได้ ในรายที่ตอบสนองต่อยาดี สามารถทำให้ฟิลาเดลเฟียโครโมโซมหายไป กลับมามีโครโมโซมที่ปกติได้
แต่จำเป็นต้องฉีดยาระยะยาวประมาณ 2-3 ปี ใช้เวลา 6 เดือน ถึง 12 เดือน จึงจะเริ่มเห็นว่าจำนวนฟิลาเดลเฟียโครโมโซมลดลง
รายที่ฉีดยาแล้วกลับมามีโครโมโซมที่ปกติได้ มีการพยากรณ์โรคดี
มีสิทธิ์หายขาดจากโรคได้ แต่เท่าที่ได้ทำการศึกษาในผู้ป่วยไทย
พบว่า อัตราการตอบสนองต่อยาอินเทอร์เฟียรอนต่ำกว่าผู้ป่วยในต่างประเทศมาก
ในรายที่ได้รับยาอินเทอร์เฟียรอนแล้ว ฟิลาเดลเฟียโครโมโซมไม่ลดลง
ถ้าให้ยาฉีดเอร่าซี (Ara C) ร่วมด้วย จะมีโอกาสตอบสนองดีขึ้น
สามารถทำให้ฟิลาเดลเฟียโครโมโซมลดลงหรือหายไปได้ แต่การใช้ยาฉีดทั้ง 2 ตัว ร่วมกัน
จะมีผลข้างเคียงมากขึ้น ผู้ป่วยหลายรายไม่สามารถทนต่อการฉีดยา 2 ตัวร่วมกันได้
ผู้ที่จะทำการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดได้ต้องมีอายุไม่มาก
และมีพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน ที่มีเลือดเข้ากันได้ โดยดูจากการตรวจ เอช แอล เอ
ว่าเข้ากันได้หรือไม่ พี่น้องพ่อแม่เดียวกัน มีโอกาสที่มี เอช แอล เอ เหมือนกัน
ร้อยละ 25 คนที่มีอายุน้อย เมื่อทำการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด
จะมีปัญหาแทรกซ้อนน้อยกว่าคนที่อายุมาก นอกจากนี้การทำการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด
ภายใน 1 ปีแรก หลังได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้
จะได้ผลดีกว่าเมื่อเกิน 1 ปีไปแล้ว
4. ยาใหม่ ๆ
เช่น กลีเวค เป็นยารับประทานที่มีฤทธิ์ยับยั้งฟิลาเดลเฟียโครโมโซมโดยตรง ดังนั้นจึงสามารถทำให้จำนวนฟิลาเดลเฟียโครโมโซมลดลงจนเป็นศูนย์ได้ ซึ่งหมายความว่าโรคหายขาดได้ เป็นความหวังใหม่ของการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ชนิดเรื้อรังแบบไมอีลอยด์นี้ ส่วนใหญ่น่าจะได้ผลดีมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะต้น ๆ ของโรค ถึงแม้ว่าในระยะท้าย ๆ จากการศึกษาก็ยังพบว่าผู้ป่วยตอบสนองต่อยาตัวนี้ได้ แต่ยาตัวนี้ยังมีราคาแพงมาก ต้องรับประทานวัน 4-6 เม็ด คิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อวัน ถึง 4,000-6,000 บาท ระยะเวลาที่ต้องรับประทานยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ต้องรับประทานไปนานเท่าไร และเมื่อหยุดยาแล้วฟิลาเดลเฟียโครโมโซมจะกลับมาอีกหรือไม่
ผู้ป่วยในระยะลุกลามและระยะเฉียบพลัน มักได้ผลจากการรักษาไม่ดีเท่าผู้ป่วยในระยะเรื้อรัง ส่วนใหญ่แล้วต้องให้การรักษาแบบประคับประคองร่วมไปด้วย เช่น ซีดมาก มีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง อาจต้องให้เลือดหรือส่วนประกอบของเลือด รายที่มีเกล็ดเลือดต่ำมาก มีจุดเลือดออกตามตัวหรือออกตามไรฟัน จำเป็นต้องให้เกล็ดเลือดเข้มข้นแก่ผู้ป่วย เพื่อป้องกันการที่จะมีเลือดออกในอวัยวะสำคัญ ๆ เช่น ในสมอง เป็นต้น รายที่มีเม็ดเลือดขาวต่ำจากการให้เคมีบำบัดอาจมีการติดเชื้อได้ จำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะร่วมด้วย เป็นต้น
เช่น กลีเวค เป็นยารับประทานที่มีฤทธิ์ยับยั้งฟิลาเดลเฟียโครโมโซมโดยตรง ดังนั้นจึงสามารถทำให้จำนวนฟิลาเดลเฟียโครโมโซมลดลงจนเป็นศูนย์ได้ ซึ่งหมายความว่าโรคหายขาดได้ เป็นความหวังใหม่ของการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ชนิดเรื้อรังแบบไมอีลอยด์นี้ ส่วนใหญ่น่าจะได้ผลดีมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะต้น ๆ ของโรค ถึงแม้ว่าในระยะท้าย ๆ จากการศึกษาก็ยังพบว่าผู้ป่วยตอบสนองต่อยาตัวนี้ได้ แต่ยาตัวนี้ยังมีราคาแพงมาก ต้องรับประทานวัน 4-6 เม็ด คิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อวัน ถึง 4,000-6,000 บาท ระยะเวลาที่ต้องรับประทานยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ต้องรับประทานไปนานเท่าไร และเมื่อหยุดยาแล้วฟิลาเดลเฟียโครโมโซมจะกลับมาอีกหรือไม่
ผู้ป่วยในระยะลุกลามและระยะเฉียบพลัน มักได้ผลจากการรักษาไม่ดีเท่าผู้ป่วยในระยะเรื้อรัง ส่วนใหญ่แล้วต้องให้การรักษาแบบประคับประคองร่วมไปด้วย เช่น ซีดมาก มีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง อาจต้องให้เลือดหรือส่วนประกอบของเลือด รายที่มีเกล็ดเลือดต่ำมาก มีจุดเลือดออกตามตัวหรือออกตามไรฟัน จำเป็นต้องให้เกล็ดเลือดเข้มข้นแก่ผู้ป่วย เพื่อป้องกันการที่จะมีเลือดออกในอวัยวะสำคัญ ๆ เช่น ในสมอง เป็นต้น รายที่มีเม็ดเลือดขาวต่ำจากการให้เคมีบำบัดอาจมีการติดเชื้อได้ จำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะร่วมด้วย เป็นต้น