‘โดรน’ ภัยร้ายในชีวิตประจำวันแบบใหม่
ทุกวันนี้ "โดรน" ยานบินไร้คนขับนั้นไม่ได้เป็นเพียงของเล่นคนรวยเฉพาะกลุ่มอีกต่อไป โดรน
มีราคาถูกและมีจำหน่ายในฐานะของเล่น หรือเครื่องมือประกอบการในสัมมาอาชีพ
เช่นกลุ่มนักถ่ายภาพที่ต้องการภาพในมุมแปลกๆ แตกต่างจากผู้อื่น
เราจึงเห็นโดรนบินว่อนกันในอากาศกันมากมาย
จนเมื่อไม่นานมานี้กรมการบินพลเรือนในบ้านเราได้ออกกฎหมายควบคุมการบินโดรน
โดยต้องขออนุญาตการบินโดรน รวมทั้งแจ้งปริมาณเชื้อเพลิงที่บรรจุภายในโดรน
ต้องใช้บินได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง
ป้องกันไม่ให้รบกวนจราจรทางอากาศ
และไม่อนุญาตให้บุคคลทั่วไปนำโดรนที่ติดตั้งกล้องถ่ายภาพขึ้นบิน
เพราะอาจเข้าข่ายละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
แต่จะอนุญาตเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่มีความจำเป็นในการถ่ายภาพ เช่น
กลุ่มสื่อสารมวลชนและธุรกิจการถ่ายภาพ ทั้งยังกำหนดระดับความสูง
โดยห้ามโดรนบินสูงเกินกว่า 500 ฟุต และต่ำเกินกว่า 50
ฟุตจากระดับพื้นดิน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการบินพาณิชย์
และประชาชนทั่วไป
ซึ่งไม่น่าแปลกใจที่ทำไมกรมการบินพลเรือนถึงต้องอาศัยกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางอากาศ
พ.ศ. 2497 มาบังคับใช้เพื่อควบคุมการใช้โดรนให้ถูกต้อง
หลีกเลี่ยงการเป็นอันตรายต่อการบิน รวมทั้งป้องกันการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
เพราะในต่างประเทศ
มีรายงานว่าโดรนเป็นอันตรายต่อสิ่งมีและไม่มีชีวิตชนิดอื่นอย่างมาก
มีเหตุการณ์ที่โดรนพุ่งชนกระจกหน้ารถยนต์ที่กำลังวิ่งอยู่
การใช้โดรนนำทรายที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีไปยังทำเนียบนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
และมีมือดีนำโดรนไปบินใกล้ๆ กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของฝรั่งเศสและปรากฏตัวอย่างลึกลับ
ล่าสุด
ก็มีภาพข่าวปรากฏว่านักร้องชื่อดังอย่าง เอนริเก อิเกลเซียส
ได้รับบาดเจ็บที่มือจนต้องเข้ารับการผ่าตัดหลังจากพยายามเอื้อมมือขึ้นไปจับโดรนที่บินมาใกล้ๆ
เวทีคอนเสิร์ท ทำให้ใบพัดของโดรนที่ทั้งหมุนอย่างรวดเร็วและมีความบาง คม
เฉือนมือเข้าให้
โฆษกเอดีเอซี
สมาคมยานยนต์แห่งเยอรมนี ที่มีบทบาทอย่างมากมายในอุตสาหกรรมรถยนต์เมืองเบียร์
กล่าวถึงโดรนว่า "เป็นพาหนะที่อันตรายอย่างมีคุณภาพ"
โดยอ้างถึงกรณีที่โดรนบินพุ่งชนกระจกหน้ารถยนต์ที่กำลังแล่นอยู่บนทางหลวงสายหนึ่งในเยอรมนี
ซึ่งไม่ใช่ที่ที่โดรนควรจะอยู่
นอกจากรถยนต์แล้ว
เฮลิคอปเตอร์ ที่มีความสามารถในการบินแนวดิ่งและแนวระดับ ในทุกระดับความสูง
(แต่ไม่เทียบได้กับเครื่องบินในระดับความสูงมากๆ)
ก็อาจเป็นอันตรายจากโดรนที่อาจจะพุ่งเข้าชนได้ทุกเมื่อ หากโดรนที่มีประสิทธิภาพในการบนที่ความสูงระยะจำกัด
เกิดเข้าไปอยู่ในเส้นทางบินของเฮลิคอปเตอร์ที่กำลังบินในระดับต่ำ
ด้วยเหตุนี้เอง
ดอยช์ ฟลัคซีเชอรุง (ดีเอฟเอส)
หน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบด้านการจัดการจราจรทางอากาศเหนือน่านฟ้าเยอรมนี
ได้ออกคำเตือนและคำสั่งห้ามบินโดรนใกล้กับสนามบินเกินไป
มิเช่นนั้นผู้ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษสูงสุดจำคุก 10 ปี
ซึ่งเป็นกฎห้ามและควบคุมการบินโดรนในลักษณะเดียวกับประเทศอื่นๆ
ที่ห้ามการบินโดรนในพื้นที่ชุมนุมชน ในเขตหวงห้ามของทหาร โรงไฟฟ้า และโรงพยาบาล
ยิ่งสนามบินยิ่งเป็นเขตหวงห้ามไม่ให้โดรนเข้าไปเฉียดใกล้
ซึ่งจะว่าไปแล้วโดรนก็มีลักษณะเหมือนกับนกตามธรรมชาติ
ที่หากถูกดูดเข้าไปในเครื่องยนต์ของเครื่องบิน
ระหว่างที่นักบินกำลังเร่งกำลังเครื่องยนต์สูงสุดเพื่อนำเครื่องบินน้้ำหนัก กว่า 100
ตันอย่างโบอิ้ง 747 ขึ้นสู่อากาศ
หายนะก็อาจจะเกิดขึ้นมาได้ เพราะในสนามบิน
นกที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติยังเป็นที่รังเกียจเลย นับประสาอะไรกับโดรน
ต่อไปในอนาคตอาจจะมีการบังคับให้เจ้าของโดรนทำประกันภัยบุคคลที่สาม
เพื่อจะได้มีผู้รับผิดชอบในกรณีที่เกิดเหตุที่เป็นอันตรายจากโดรน
ซึ่งเป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นในกลุ่มบริษัทประกันภัยในเยอรมนีอยู่ในเวลานี้ โดรนนั้นบินได้
แต่ต้องบินอย่างมีจิตสำนึก แล้วจะสนุกและปลอดภัยครับ
ที่มาข่าวจาก คม-ชัด-ลึก