วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2558

รปภ.ลวงสาวกัมพูชาหวังข่มขืนไม่ยอมดิ่งตึกดับ

รปภ.ลวงสาวกัมพูชาหวังข่มขืนไม่ยอมดิ่งตึกดับ


ที่สน.ร่มเกล้า เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 19 มิถุนายน พ.ต.อ.สันทัด ลยางกูร ผกก.สน.ร่มเกล้า พ.ต.ท.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ สว.สส. และ ร.ต.อ.จารุวัจน์ ศรีราเพ็ญ รอง สว.สส. ร่วมกันนำกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ร่มเกล้า จับกุมตัว นายชรินทร์ จงทอง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 5 ต.ศรีภิรมย์ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ผู้ต้องหา หลังก่อเหตุกักขังหน่วงเหนี่ยวและพยายามข่มขืนสาวชาวกัมพูชา โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ห้างย่านสะพานใหม่ ซอยพหลโยธิน 50 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.
              การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน เวลาประมาณ 13.00 น.ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.ร่มเกล้า รับแจ้งเหตุหญิงสาวตกจากห้องพักเลขที่ 119/115 ชั้น 3 ของอาคาร 5 แฟลตปากบึง ร่มเกล้า แขวงคลองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. ก่อนรีบนำตัวส่ง รพ.นวมินทร์ 1 และเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังเกิดเหตุทราบว่า ผู้เสียชีวิตคือ น.ส.เปา อายุ 23 ปี สัญชาติกัมพูชา เป็นลูกจ้างร้านอาหาร ย่านรามคำแหง โดยจากแนวทางการสืบสวนทราบอีกว่า ก่อนเกิดเหตุมีผู้ที่อยู่กับผู้ตาย คือนายชรินทร์ ซึ่งเป็นผู้เช่าห้องที่เกิดเหตุ มีอาชีพเป็น รปภ.และได้หลบหนีไปในวันที่เกิดเหตุ จากนั้นตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ร่มเกล้า จึงออกสืบสวนหาข่าว จนทราบว่านายชรินทร์ ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่กับเพื่อน ที่ย่านสะพานใหม่ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ กระทั่งพบตัวนายชรินทร์ที่ ห้างบิ๊กซี สะพานใหม่ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สน.ร่มเกล้า
              สอบสวนนายชรินทร์ ให้การยอมรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้หลอกลวงผู้ตายที่มีหน้าตาดี ว่าตนสามารถช่วยทำบัตรทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ จากนั้นได้ชักชวนผู้ตายมาที่ห้องของตน โดยพาซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มา เมื่อมาถึงห้องได้ล๊อคประตูในห้อง แล้วได้นั่งดื่มเหล้าในห้อง ซักพักได้ขอ ผู้ตายร่วมเพศแต่ผู้ตายไม่ยินยอม จึงได้ปลุกปล้ำ แต่ผู้ตายวิ่งหลบหนีจะออกประตู ตนจึงขวางประตูไว้ พร้อมกับยึดโทรศัพย์ของผู้ตายไว้ แต่ผู้ตายสะบัดหลุดวิ่งไปที่ด้านหลังห้อง แล้วตัดสินใจปีนออกระเบียงหลังห้องแล้วตกลงมานอนหมดสติ มีเลือดไหลจำนวนมาก ด้วยความตกใจจึงรีบขับรถจักรยานตร์หลบหนีมาพักกับเพื่อน ก่อนมาถูกจับกุมดังกล่าว ทั้งนี้ตนทำลักษณะนี้เป็นเพียงครั้งแรกเท่านั้น
              อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่ปีกใจเชื่อต่อคำให้การ เนื่องจากมีแนวทางการสืบสวนยังทราบอีกว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์ชอบหลอกลวงหญิงสาวต่างด้าว ย่านหน้ารามคำแหง ว่าสามารถทำบัตรที่ทำงานในประเทศไทยได้อย่างถูกกฎหมายได้ รวมทั้งหางานให้ แม้กระทั่งหาคู่สมรสที่เป็นชาวไทย ที่ร่ำรวยได้อีกด้วย เบื้องต้นแจ้งข้อหา "หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุต่ำกว่า 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวง ใช้กำลังประทุษร้าย" ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ร่มเกล้า ดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

ขอบคุณที่มาข่าวจาก  คม-ชัด-ลึก