ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งคัมรี่ สีบรอนส์เงิน ภายในรถพบศพ นายศรุต เรืองสอน อายุ 34 ปี บ้านอยู่แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. อดีตนักธุรกิจทำเต๊นท์ซื้อขายรถยนต์มือสอง แต่เศรษฐกิจไม่ดีจึงเกิดปัญหาขาดทุนแล้วยกเลิกกิจการไป สภาพศพของนายศรุต สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงสามส่วนสีเขียว นั่งเสียชีวิตอยู่ในเบาะคนขับ มีเลือดไหลที่ศีรษะ พบบาดแผลถูกอาวุธปืนขนาด .22 ยิงเข้าที่ขมับขวา ภายในรถยังพบอาวุธปืนขนาด .22 ตกอยู่ข้างตัว จำนวน 1 กระบอก และปลอกกระสุน 1 ปลอก ตร.จึงเก็บเป็นหลักฐาน
โดย นายกฤตพัฒน์ อายุ 60 ปี บ้านอยู่ย่านพุทธมณฑลสาย 3 เป็นผู้พบศพเป็นคนแรก เปิดเผยว่า ตนมาวิ่งออกกำลังกายในสวนพุทธมณฑลทุกวัน ขณะที่กำลังวิ่งอยู่นั้นเห็นรถคันดังกล่าวมาจอดอยู่ที่ริมถนน มีเสียงเร่งเครื่องอยู่ตลอดเวลา ตนวิ่งผ่านไปมาสองรอบก็ยังเห็นว่าเร่งเครื่องอยู่ จึงหยุดวิ่งแล้วเดินมาที่รถเพื่อจะมาบอกว่า กฎกติกาของสวนพุทธมณฑลนั้น หากนำรถมาจอดห้ามติดเครื่องยนต์เพราะจะเกิดมลพิษ แต่รถคันดังกล่าวติดฟิล์มจนมืด เคาะกระจกเรียกก็ไม่มีเสียงตอบออกมา จึงใช้มือป้องดูที่กระจก พบมีคนนอนอยู่แต่มีเลือดไหลนองจากศีรษะ จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่พร้อมประสาน ตร.ให้มาตรวจสอบ
นอกจากนี้จากการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่ามีกระเป๋าสะพายของผู้ตายวางอยู่ภายในรถอีก 1 ใบ เมื่อเปิดออกดูพบจดหมายลาตายเขียนด้วยลายมือตัดพ้อเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว ซึ่งระบุว่า “รักและคิดถึงทุกคน -------- สงสัยนรกว่างแล้วมั้ง เพราะตอนนี้ก็ใช้ชีวิตเหมือนตกนรก ฝากดูแล----ด้วยนะ พ่อรักลูกมากนะ รักมากที่สุดในดวงใจ ----ฉันก็รัก----นะ ถึง----จะเปลี่ยนไป จะทำเหมือนไม่สนใจแต่ฉันก็ยังรัก ยิ่งห่างยิ่งอยากดูแล ทั้งแม่และลูก แต่สภาพอย่างที่เห็นตอนนี้ มันทำให้รู้สึกแย่ ฉันไม่อยากอยู่ ถ้าอยู่แล้วครอบครัวมีปัญหา จากศรุต” ตร.ได้เก็บจดหมายดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเชื่อมโยงไปหาสาเหตุในการฆ่าตัวตายครั้งนี้
ในเบื้องต้นทาง ตร.ได้สันนิษฐานว่า เกิดจากความเครียดปัญหาครอบครัว และเรื่องส่วนตัว ประกอบกับทำธุรกิจซื้อขายรถยนต์มือสองแล้วขาดทุนจนต้องยกเลิกกิจการ จึงทำให้ผู้ตายเกิดความเครียดตัดสินใจฆ่าตัวตาย
ขอบคุณ khaosod